about-icon-6

คำถามที่พบบ่อย

qa-icon

คำถามที่พบบ่อย

🆀 เรื่องของเด็ก: เด็ก ๆ...ก็ช่วยเสริมแผนทางการเงินได้


ตอนนี้หนูกำลังเรียนอยู่ชั้นมัธยมตอนปลายค่ะ ทุกครั้งที่ใกล้เปิดเทอมจะเห็นข่าวเกี่ยวกับราคาข้าวของ เสื้อผ้า อุปกรณ์การเรียนที่แพงขึ้นทุกปี สงสารคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องแบกภาระนี้ ยิ่งถ้าบ้านไหนมีลูกหลายๆ คน หรือฐานะ ไม่ดีนักก็คงจะแย่ เด็กๆ อย่างพวกหนูพอจะทำอะไรที่จะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้กับคุณพ่อคุณแม่ได้ บ้างคะ ขอบคุณค่ะ
🅰 ขอบคุณสำหรับคำถามค่ะ หลังจากที่ได้อ่านคำถามนี้ บอกได้คำเดียวว่า ปลื้มใจจริงๆ ค่ะ ที่เด็กๆ เยาวชนไทย ของเรา คิดดี และตั้งใจจะทำดี เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระคุณพ่อคุณแม่ ขอชมเชยจากใจจริงค่ะ สิ่งที่จะบอกกล่าว ต่อไปนี้ ไม่ใช่ว่าน้องๆ หนูๆ จะทำได้แค่ตอนใกล้เปิดเทอมเท่านั้นนะค่ะ แต่อยากให้น้องๆทำเมื่อว่างจากการเรียน เช่นในวันหยุด หรือช่วงปิดเทอม ถ้าน้องๆ ทำได้มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งช่วยแบ่งเบาภาระคุณพ่อคุณแม่ได้มากเท่านั้นค่ะ เรามาดูกันเลยค่ะว่าเด็กๆ อย่างหนูพอจะมีส่วนร่วมอะไร ในการช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้คุณพ่อคุณแม่ กันได้บ้าง

อันดับแรก น้องๆ ต้องเลิกการใช้จ่ายฟุ่มเฟือย อะไรบ้างที่เรียกว่าฟุ่มเฟือย ยกตัวอย่างเช่น การซื้อเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า เครื่องประดับที่มีราคาแพงอยู่เสมอๆ ควรเลือกซื้อเฉพาะที่จำเป็นต้องสวมใส่ ก็พอ คงไม่ต้องถึงกับเจ็ดวัน เจ็ดสีหรอกนะคะ การรับประทานอาหาร ก็ไม่ต้องไปสรรหาร้านอาหารแพงหรู รับประทานร้านที่ อร่อย สะอาด ถูกหลักอนามัยก็พอ โทรศัพท์มือถือก็เช่นกัน ถ้าที่บ้านมีโทรศัพท์อยู่แล้ว ก็ไม่ควรซื้อ แต่หากจำเป็นต้องมีจริงๆ ก็ซื้อแค่ที่พอใช้งานได้ก็พอค่ะ ไม่จำเป็นต้องเป็นรุ่นล่าสุดที่มีฟังก์ชันมากมาย รวมถึงการเปลี่ยนหน้ากากกันให้ ทันสมัยอยู่ตลอดเวลา สิ้นเปลืองเงินทองโดยเปล่าประโยชน์ เลิกนิสัยฟุ่มเฟือยได้เมื่อไหร่จะช่วยคุณพ่อคุณแม่ ได้มากเลยค่ะ

นอกจากการลดความฟุ่มเฟือยแล้ว จะต้องฝึกเป็นคนมัธยัสถ์ อดออม รู้จักใช้ รู้จักจ่ายด้วยค่ะ ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น

1. อะไรๆ ก็ซ่อมได้ ลองรื้อเสื้อผ้า รองเท้า ออกมาสำรวจดูว่า มีเสื้อผ้าตัวไหนกระดุมหลุด กระเป๋าขาด หรือรองเท้าเริ่มจะส่งยิ้มให้เราแล้วบ้าง อาจจะลองสวมวิญญาณช่างกันสักนิด เย็บๆ ปะๆ ชุนๆ แม้ฝีมือจะ ไม่ถึงขั้น ก็ไม่เป็นไร ถือว่าได้ฝึกทักษะ ทำเสร็จแล้วเอาไปให้คุณแม่ดู รับรองว่าท่านต้องภูมิใจในตัวเรา แน่นอนค่ะ

2. ยอมรับมรดกตกทอด ครอบครัวที่มีญาติพี่น้องที่อายุไล่เลี่ยกัน หรือมีลักษณะรูปร่างใกล้เคียงกัน ซึ่งหากเรากำลังคิดจะซื้อของใหม่สักชิ้นล่ะก็ คิดสักนิดนะคะว่า พี่ๆ น้องๆ ของเรามีของที่สามารถนำมา ใช้แทนกันได้ และเขาไม่ได้ใช้แล้วอยู่หรือเปล่า ยืดอกรับของต่อจากพี่ๆ น้องๆ มาใช้ดีกว่าค่ะ รู้สึกอบอุ่น อีกต่างหาก

3. ประหยัดน้ำ ประหยัดไฟ เช่น ไม่เปิด ก๊อกน้ำ ทีวี หรือคอมพิวเตอร์ ทิ้งไว้ หลังจากเลิกดู เลิกใช้แล้ว ก็ควรปิดแล้วถอดปลั๊กเสียให้เรียบร้อย การรีดผ้าก็เช่นกันจะรีดผ้าทั้งทีอย่ารีดแค่ตัวเดียว เพราะเขาบอกว่า ถึงแม้จะรีดผ้าแค่ตัวเดียวแต่สิ้นเปลืองค่าไฟเท่ากับการรีด ผ้า 10 ตัว ฉะนั้น จะเป็นผ้าของใครในบ้าน ก็ขน มารีดให้หมดค่ะ นอกจากจะประหยัดไฟแล้ว น้องๆ ก็จะกลายเป็นขวัญใจของทุกคนในครอบครัวไปแบบ ไม่รู้เนื้อรู้ตัวด้วยค่ะ

หลังจากลดรายจ่าย ด้วยการไม่ฟุ่มเฟือย ประหยัด อดออมแล้ว ก็ลองมาหารายได้เพิ่มเติมกันบ้าง โดยอาจจะ ทำขนม เก็บขวดน้ำ ขวดพลาสติก ที่ไม่ใช้แล้วนำไปขาย ซึ่งวิธีนี้ช่วยกันได้ทั้งครอบครัวค่ะ ไม่ว่าจะเด็กเล็กหรือ เด็กโต หรืออาจจะไปรับจ้างทำงานนอกบ้าน ซึ่งวิธีนี้มีข้อจำกัดอยู่บ้าง ตามกฎหมายหมายแรงงาน ว่าด้วย การใช้แรงงานเด็ก กล่าวคือ กฎหมายเขากำหนดเอาไว้ว่า

1. ห้ามใช้แรงงานเด็ก อายุต่ำกว่า 15 ปีทำงานโดยเด็ดขาด

2. ห้ามใช้แรงงานเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ในกิจการบางประเภท และห้ามทำงานระหว่างเวลา 22.00 น. - 06.00 น. ทำงานวันหยุดและทำงานล่วงเวลา

3. การว่าจ้างแรงงานเด็กต่ำกว่า 18 ปี ต้องแจ้งพนักงานตรวจแรงงานภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่เด็ก เข้าทำงาน เป็นต้น

ฉะนั้นหากน้องๆ คนใดที่อยากจะทำงานหารายได้เพิ่มเติม ตามสถานประกอบการต่างๆ ก็ต้องเป็นไปตามที่กฎหมาย กำหนดไว้นะคะ ทั้งนี้ควรจะปรึกษาคุณพ่อคุณแม่และได้รับอนุญาตจากท่านก่อนที่จะไปสมัครทำงานก็ดีค่ะ

และประการสุดท้าย อย่าลืมนะคะว่า “รายจ่ายที่ลดลง เสมือนหนึ่งรายได้เพิ่มขึ้น” ดังนั้น อยากให้น้องๆ ช่วยคุณพ่อ คุณแม่ ทำบัญชีค่าใช้จ่ายของครอบครัวดูบ้าง ลองลดนี่นิด ประหยัดนั่นหน่อย คิดให้รอบคอบก่อนจะซื้ออะไร ของบางอย่างที่คุณภาพใกล้เคียงกัน แทนที่จะซื้อของยี่ห้อดัง ก็ลองใช้แบบโนเนมดูบ้าง แล้วจะรู้ว่าง่ายนิดเดียวค่ะ ที่จะช่วยคุณพ่อคุณแม่ ให้มีเงินเพิ่มขึ้นในกระเป๋าค่ะ