คำถามที่พบบ่อย
คำถามที่พบบ่อย
🆀 ซื้อๆ ขายๆ LTF… ได้หรือไม่
1. ผู้ลงทุนสามารถซื้อขายกองทุนรวม LTF ปีละหลายๆ ครั้ง เหมือนการซื้อขายหุ้นได้หรือไม่
2. ผู้ลงทุนที่ซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนรวม LTF แล้วสามารถนำไปใช้ลดหย่อนภาษีได้ทุกๆ ปีหรือไม่
🅰 มีผู้ลงทุนได้สอบถามเข้ามาที่สมาคมอยู่บ่อยครั้งเกี่ยวกับการลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (Long Term
Equity Fund : LTF) ว่าจะสามารถซื้อๆ ขายๆ เหมือนกับการลงทุนหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้
หรือไม่ ก่อนอื่นเรามาดูวัตถุประสงค์และเงื่อนไขของการลงทุนในกองทุนรวม LTF กันอีกครั้งๆ ชัดๆ เพื่อไข
ข้อสงสัยของคำถามนี้กันนะคะ
กองทุนรวม LTF เป็นกองทุนที่จัดตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมเสถียรภาพในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ด้วยการเพิ่ม สัดส่วนของนักลงทุนสถาบัน(กองทุนรวม) ให้ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นระยะเวลาที่ยาวนานขึ้น ทั้งนี้ ผู้ลงทุนที่เป็นบุคคลธรรมดาที่ลงทุนในกองทุนรวม LTF จะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีเป็นสิ่งจูงใจในการลงทุน แลกกับเงื่อนไขที่จะต้องลงทุนตลอดระยะเวลาที่กำหนด คือ
เมื่อผู้ลงทุนซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนรวม LTF แล้ว จะต้องถือไว้ให้ครบ 5 ปีปฏิทิน ผู้ลงทุนจึงจะได้รับ สิทธิประโยชน์ทางภาษี ดังต่อไปนี้คือ
1. เงินที่ได้จ่ายเป็นค่าซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวม LTF จะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามที่ จ่ายจริงสูงสุดไม่เกิน 15% ของเงินได้ในแต่ละปี แต่ทั้งนี้จะต้องไม่เกิน 300,000 บาท
2. กำไรส่วนเกินที่ได้จากการขายคืนหน่วยลงทุน (capital gain) จะได้รับการยกเว้นภาษี แต่ถ้าหากผู้ลงทุน ทำผิดเงื่อนไข โดยขายคืนหน่วยลงทุนก่อนครบกำหนด 5 ปีปฏิทิน นอกจากผู้ลงทุนจะต้องนำสิทธิ ประโยชน์ ทางภาษีที่ขอลดหย่อนไว้คืนให้กับกรมสรรพากรแล้ว ผู้ลงทุนยังต้องเสียผลประโยชน์เพิ่มอีก ดังต่อไปนี้คือ
2.1 เงินที่ได้จ่ายเป็นค่าซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวม LTF จะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตามที่จ่ายจริงสูงสุดไม่เกิน 15% ของเงินได้ในแต่ละปี แต่ทั้งนี้จะต้องไม่เกิน 300,000 บาท
2.2 หากมีกำไรจากการขายคืนหน่วยลงทุน ผู้ลงทุนก็ยังมีหน้าที่ในการนำเงินกำไรที่ได้รับนี้ไปรวม คำนวณเป็นเงินได้เพื่อเสียภาษีตอนปลายปีอีกด้วย โดยบริษัทจัดการจะหักภาษี ณ ที่จ่ายไว้ก่อน 3% ของกำไรที่ได้รับ
ทั้งนี้ หากผู้ลงทุนไม่ชำระภาษีตามหน้าที่ตาม 1 และ 2 แล้วต่อมากรมสรรพากรออกหมายเรียก ผู้ลงทุนก็จะต้อง ชำระเงินเพิ่มและยังต้องเสียเบี้ยปรับตามมาตรา 22 หรือ 16 แห่งประมวลรัษฎากรอีกด้วย
อีกทั้ง ในหนังสือชี้ชวนเสนอขายหน่วยลงทุนของกองทุนรวม LTF จะกำหนดการขายคืนหน่วยลงทุนใน กองทุนรวม LTF เอาไว้ว่า ผู้ลงทุนจะสามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้ไม่เกินปีละ 2 ครั้งเท่านั้น
ฉะนั้น จะเห็นได้ว่าด้วยเงื่อนไขการขายคืนหน่วยลงทุนของกองทุนรวม LTF เอง รวมถึงหลักเกณฑ์เงื่อนไข และวิธีการลงทุนในกองทุนรวม LTF ที่กรมสรรพากรกำหนด ทำให้ผู้ลงทุนไม่สามารถจะซื้อๆ ขายๆ หน่วยลงทุน ของกองทุน LTF ได้เหมือนการซื้อขายหุ้น ดิฉันขอให้ผู้ลงทุนอดทนสักนิด ระยะเวลา 5 ปีปฏิทิน ไม่ใช่ระยะเวลา ที่นานเกินไปเลย ทั้งนี้ ก็เพื่อรักษาสิทธิประโยชน์ที่ตัวผู้ลงทุนพึงจะได้รับค่ะ
อีกประเด็นหนึ่งที่ผู้ลงทุนสงสัยไม่แพ้กันก็คือ เมื่อซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนรวม LTF แล้วจะนำไปลดหย่อนภาษี ได้ทุกปีหรือไม่ ตอบให้หายสงสัยกันตรงนี้เลยนะค่ะว่า การลงทุนในกองทุนรวม LTF เงินที่จ่ายเป็นค่าซื้อ หน่วยลงทุนจะนำไปใช้ลดหย่อนภาษีได้เฉพาะปีที่มีการลงทุนเท่านั้น (สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ปีต่อปี) ปีใด ที่ไม่มีการลงทุนก็ไม่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ค่ะ
สุดท้ายอยากฝากไว้ว่า ผู้ลงทุนท่านใดที่คิดจะลงทุนในกองทุนรวม LTF ก็ควรจะสำรวจตัวเองก่อนว่าต้องการ ลงทุนเพื่ออะไร สามารถยอมรับความเสี่ยงจากการลงทุนในกองทุนนี้ได้มากน้อยแค่ไหน และพร้อมที่จะลงทุน ในระยะยาวหรือไม่ ทั้งนี้ก็เพื่อให้การลงทุนเป็นไปตามวัตถุประสงค์การลงทุนที่แท้จริงนั่นเองค่ะ
กองทุนรวม LTF เป็นกองทุนที่จัดตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมเสถียรภาพในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ด้วยการเพิ่ม สัดส่วนของนักลงทุนสถาบัน(กองทุนรวม) ให้ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นระยะเวลาที่ยาวนานขึ้น ทั้งนี้ ผู้ลงทุนที่เป็นบุคคลธรรมดาที่ลงทุนในกองทุนรวม LTF จะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีเป็นสิ่งจูงใจในการลงทุน แลกกับเงื่อนไขที่จะต้องลงทุนตลอดระยะเวลาที่กำหนด คือ
เมื่อผู้ลงทุนซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนรวม LTF แล้ว จะต้องถือไว้ให้ครบ 5 ปีปฏิทิน ผู้ลงทุนจึงจะได้รับ สิทธิประโยชน์ทางภาษี ดังต่อไปนี้คือ
1. เงินที่ได้จ่ายเป็นค่าซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวม LTF จะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามที่ จ่ายจริงสูงสุดไม่เกิน 15% ของเงินได้ในแต่ละปี แต่ทั้งนี้จะต้องไม่เกิน 300,000 บาท
2. กำไรส่วนเกินที่ได้จากการขายคืนหน่วยลงทุน (capital gain) จะได้รับการยกเว้นภาษี แต่ถ้าหากผู้ลงทุน ทำผิดเงื่อนไข โดยขายคืนหน่วยลงทุนก่อนครบกำหนด 5 ปีปฏิทิน นอกจากผู้ลงทุนจะต้องนำสิทธิ ประโยชน์ ทางภาษีที่ขอลดหย่อนไว้คืนให้กับกรมสรรพากรแล้ว ผู้ลงทุนยังต้องเสียผลประโยชน์เพิ่มอีก ดังต่อไปนี้คือ
2.1 เงินที่ได้จ่ายเป็นค่าซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวม LTF จะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตามที่จ่ายจริงสูงสุดไม่เกิน 15% ของเงินได้ในแต่ละปี แต่ทั้งนี้จะต้องไม่เกิน 300,000 บาท
2.2 หากมีกำไรจากการขายคืนหน่วยลงทุน ผู้ลงทุนก็ยังมีหน้าที่ในการนำเงินกำไรที่ได้รับนี้ไปรวม คำนวณเป็นเงินได้เพื่อเสียภาษีตอนปลายปีอีกด้วย โดยบริษัทจัดการจะหักภาษี ณ ที่จ่ายไว้ก่อน 3% ของกำไรที่ได้รับ
ทั้งนี้ หากผู้ลงทุนไม่ชำระภาษีตามหน้าที่ตาม 1 และ 2 แล้วต่อมากรมสรรพากรออกหมายเรียก ผู้ลงทุนก็จะต้อง ชำระเงินเพิ่มและยังต้องเสียเบี้ยปรับตามมาตรา 22 หรือ 16 แห่งประมวลรัษฎากรอีกด้วย
อีกทั้ง ในหนังสือชี้ชวนเสนอขายหน่วยลงทุนของกองทุนรวม LTF จะกำหนดการขายคืนหน่วยลงทุนใน กองทุนรวม LTF เอาไว้ว่า ผู้ลงทุนจะสามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้ไม่เกินปีละ 2 ครั้งเท่านั้น
ฉะนั้น จะเห็นได้ว่าด้วยเงื่อนไขการขายคืนหน่วยลงทุนของกองทุนรวม LTF เอง รวมถึงหลักเกณฑ์เงื่อนไข และวิธีการลงทุนในกองทุนรวม LTF ที่กรมสรรพากรกำหนด ทำให้ผู้ลงทุนไม่สามารถจะซื้อๆ ขายๆ หน่วยลงทุน ของกองทุน LTF ได้เหมือนการซื้อขายหุ้น ดิฉันขอให้ผู้ลงทุนอดทนสักนิด ระยะเวลา 5 ปีปฏิทิน ไม่ใช่ระยะเวลา ที่นานเกินไปเลย ทั้งนี้ ก็เพื่อรักษาสิทธิประโยชน์ที่ตัวผู้ลงทุนพึงจะได้รับค่ะ
อีกประเด็นหนึ่งที่ผู้ลงทุนสงสัยไม่แพ้กันก็คือ เมื่อซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนรวม LTF แล้วจะนำไปลดหย่อนภาษี ได้ทุกปีหรือไม่ ตอบให้หายสงสัยกันตรงนี้เลยนะค่ะว่า การลงทุนในกองทุนรวม LTF เงินที่จ่ายเป็นค่าซื้อ หน่วยลงทุนจะนำไปใช้ลดหย่อนภาษีได้เฉพาะปีที่มีการลงทุนเท่านั้น (สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ปีต่อปี) ปีใด ที่ไม่มีการลงทุนก็ไม่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ค่ะ
สุดท้ายอยากฝากไว้ว่า ผู้ลงทุนท่านใดที่คิดจะลงทุนในกองทุนรวม LTF ก็ควรจะสำรวจตัวเองก่อนว่าต้องการ ลงทุนเพื่ออะไร สามารถยอมรับความเสี่ยงจากการลงทุนในกองทุนนี้ได้มากน้อยแค่ไหน และพร้อมที่จะลงทุน ในระยะยาวหรือไม่ ทั้งนี้ก็เพื่อให้การลงทุนเป็นไปตามวัตถุประสงค์การลงทุนที่แท้จริงนั่นเองค่ะ