about-icon-6

คำถามที่พบบ่อย

qa-icon

คำถามที่พบบ่อย

🆀 Hedge Fund คืออะไร


"เมื่อกล่าวถึง Hedge Fund นักลงทุนหรือผู้ที่อยู่ในแวดวงการเงินคงเคยได้ยินได้ฟังมาบ้าง แต่คงมีบุคคล จำนวนน้อยมากที่ได้มีโอกาสลงทุนกับกองทุนประเภทนี้ เพราะปัจจุบันทางการของไทยยังไม่อนุญาตให้มี การเสนอขายกองทุนประเภทดังกล่าวแก่นักลงทุนทั่วไป แต่ในอนาคตอาจมีการอนุญาตให้มีการลงทุนใน กองทุนประเภทนี้ก็ได้ ดังเช่นในหลายๆ ประเทศในเอเชียได้เปิดโอกาสแล้ว"
🅰 Hedge Fund เป็นกองทุนประเภทหนึ่งที่สามารถลงทุนได้ทั้งหลักทรัพย์ชนิดต่างๆ ตราสารอนุพันธ์ และตราสาร ทางการเงินต่างๆ โดยในการบริหารจัดการกองทุน สามารถนำเทคนิคในการบริหารความเสี่ยงมาใช้ได้ อย่างกว้างขวาง ถึงแม้ว่า Hedge Fund จะเป็นกองทุนประเภทหนึ่ง แต่ในด้านข้อกำหนดของหน่วยงานราชการ ในประเทศที่อนุญาตให้มีการจัดตั้งกองทุนประเภทนี้ เช่น ในสหรัฐอเมริกาได้มีข้อกำหนดที่แตกต่างจากกองทุน รวมโดยทั่วไปในหลายๆ ด้านเช่น

Hedge Fund ไม่ต้องอยู่ภายใต้ข้อกำหนดอันเข้มงวดต่างๆ หลายประการที่ทางกองทุนรวมต้องปฏิบัติ เช่น กฎเกี่ยวกับการปกป้องผู้ถือหน่วย การดำรงสภาพคล่อง การป้องกันความขัดเแย้งทางผลประโยชน์ (Conflict of interest) การเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุน เป็นต้น

เงินลงทุนที่บริหารนอกจากจะมาจากประชาชนทั่วไปแล้ว ผู้บริหาร Hedge Fund ยังสามารถร่วมลงทุนได้ใน อัตราส่วนที่สูง

การแบ่งปันผลประโยชน์ของผู้ถือหน่วยไม่จำเป็นต้องเท่ากันหมด

ทางเลือกในการลงทุนเพื่อหาผลตอบแทนเปิดกว้างมากกว่ากองทุนรวมโดยทั่วไป และสามารถลงทุนในลักษณะ กระจุกตัวได้ในระดับสูง

การที่ข้อกำหนดของ Hedge Fund ไม่เข้มงวดมากเหมือนกับกองทุนรวมทั่วไป เนื่องมาจากผู้ที่จะสามารถลงทุน ในกองทุนเหล่านี้ ถูกกำหนดให้มีวงเงินลงทุนขั้นต่ำไว้ในระดับสูง ซึ่งส่งผลให้มีผู้เกี่ยวข้องในการลงทุนจำนวน ไม่มากนักนั่นเอง

Hedge Fund มีความเสี่ยงสูงกว่ากองทุนประเภทอื่นๆ จริงหรือ

ความเข้าใจผิดที่มักจะเกิดขึ้นกับ Hedge Fund คือการคิดว่ากองทุนประเภทนี้มีความเสี่ยงสูง หรือมี ความผันผวนของผลตอบแทนสูงนั่นเอง โดยเฉพาะข่าวสารที่ออกมาตามสื่อต่างๆ เช่น Quantum Fund ของ จอร์ส โซรอส หรือการล้มละลายของกองทุนประเภทนี้ ทำให้มีการมองไปในแนวทางนั้นได้ แต่ใน ความเป็นจริง Hedge Fund ที่บริหารในรูปแบบที่มีความผันผวนของผลตอบแทนสูงมีจำนวนน้อยกว่าร้อยละ 5 ของกองทุนประเภทเดียวกันทั้งหมด โดย Hedge Fund ในกลุ่มนี้จะเน้นการลงทุน โดยใช้กลยุทธ์แบบ มองภาพรวมของเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจประเทศต่างๆ แล้วเข้าเก็งกำไร ค่าเงิน พันธบัตร หุ้น สินค้าโภคภัณฑ์ และทองคำ โดยใช้การกู้ยืมเงินเป็นตัวช่วยในการเพิ่มวงเงินลงทุนด้วย

อย่างไรก็ตาม จากการที่ Hedge Fund มีความยืดหยุ่นในการลงทุนมากกว่ากองทุนรวมประเภทอื่นๆ จึงทำให้ กลยุทธ์การลงทุนของ Hedge Fund มีความหลากหลายและส่วนมากจะมีความเชี่ยวชาญพิเศษเฉพาะด้านๆ ไปตามความสามารถของผู้บริหารกองทุนนั้นๆ ด้วยสาเหตุดังกล่าวจึงมีกองทุนอีกประเภทหนึ่งเกิดขึ้นคือ กองทุนของ Hedge Fund (Fund of Hedge Fund) โดยกองทุนชนิดนี้จะเข้าไปทำการซื้อหน่วยลงทุนของ Hedge Fund ที่มีกลยุทธ์การบริหารที่แตกต่างกันอีกทอดหนึ่งเพื่อกระจายความเสี่ยง

จากจุดเด่นของ Hedge Fund ในเรื่องความยืดหยุ่นในการบริหารจัดการและการที่มีเครื่องมือที่จะช่วยบริหาร ความเสี่ยงได้มาก ทำให้ในช่วงตลาดขาลงสามารถช่วยจำกัดความเสี่ยงให้ลดน้อยลงได้ ตัวอย่างเช่น ในระยะ เวลาช่วง 14 ปีที่ผ่านมา ดัชนี S&P500 ได้ให้ผลตอบแทนติดลบ 14 ไตรมาสซึ่งเมื่อรวมเฉพาะในช่วงดังกล่าว ผลตอบแทนติดลบถึง 90.82% เทียบกับ VAN US Hedge Fund Index ที่ให้ผลตอบแทนติดลบเพียง 5.6% เท่านั้น ในขณะที่ Morningstar Average Equity Mutual Fund ก็มีผลตอบแทนติดลบ 95.20% ในช่วงระยะ เวลาเดียวกัน ดังนั้น Hedge Fund จึงเป็นกองทุนที่ช่วยในการรักษาเงินต้นได้ดี ถ้ามีการบริหารที่ถูกต้อง เหมาะสม

โอกาสการลงทุนใน Hedge Fund

ถึงแม้ว่าในปัจจุบันทางการของไทยยังไม่อนุญาตให้มีการขาย Hedge Fund ให้แก่นักลงทุนทั่วไปในประเทศ แต่ถ้า มองดูถึงการพัฒนาการ ในการอนุญาตจัดตั้งกองทุนประเภทต่างๆ ในประเทศแล้วนับว่ามีแนวโน้มไป ในรูปแบบที่ผ่อนคลาย และมีความยืดหยุ่นมากขึ้น เช่นการอนุญาตให้สามารถเปลี่ยนสัดส่วนการถือครองหุ้น ในขณะใดขณะหนึ่งได้ตั้งแต่ 0-100% สำหรับกองทุนรวมประเภทผสมแบบยืดหยุ่น ตลอดจนการสามารถลงทุน ในกลุ่มธุรกิจใดธุรกิจหนึ่ง ได้ในสัดส่วนที่สูงขึ้นกว่าเดิม หรือแม้กระทั่งล่าสุดให้สามารถจัดตั้งกองทุนที่ลงทุน ในต่างประเทศได้ ก็เป็นแนวทางที่ทางการเปิดกว้างมากขึ้น อย่างไรก็ตามในประเทศไทยเองยังมีข้อจำกัด ในเรื่องเครื่องไม้เครื่องมือที่จะช่วยใน การบริหารความเสี่ยงที่ยังมีน้อยมาก เมื่อเทียบกับตลาดใหญ่อื่นๆ ดังนั้น ถ้านักลงทุนมีความสนใจที่จะลงทุนใน Hedge Fund ก็คงจะเป็นกองทุนที่บริหารจัดการในต่างประเทศ โดย ในแถบเอเชียประเทศที่มีการเปิดโอกาสให้มีการเสนอขาย Hedge Fund ให้แก่นักลงทุนทั่วไปได้ เช่น ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย สิงคโปร์ และล่าสุด คือ ฮ่องกง ที่ทางการได้อนุญาตให้มีการเสนอขายเมื่อปลายปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามในการอนุญาตให้มีการเสนอขาย Hedge Fund แก่นักลงทุนทั่วไปของประเทศต่างๆ ในย่านนี้ โดยเฉพาะฮ่องกงกับสิงคโปร์ ได้มีข้อกำหนด อันเข้มงวดพอสมควร เช่นในฮ่องกง กำหนดวงเงินขั้นต่ำสำหรับ การลงทุนในกองทุนของ Hedge Fund (Fund of Hedge Fund) ไว้ที่ 10,000 เหรียญสหรัฐ (430,000 บาท) หรือถ้าเป็นการลงทุนใน Hedge Fund โดยตรง ก็กำหนดไว้สูงถึง 50,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 2.15 ล้านบาททีเดียว สำหรับในสิงคโปร์ได้กำหนดวงเงินขั้นต่ำที่จะลงทุนได้ไว้ที่ 55,550 เหรียญสหรัฐ (2.38 ล้านบาท)

นอกจากกำหนดวงเงินขั้นต่ำที่จะลงทุนได้แล้วทางการของสิงคโปร์ยังกำหนดคุณสมบัติของผู้ออกกองทุน ประเภทนี้ เพิ่มเติมด้วย เช่น จะต้องมีวงเงินภายใต้การบริหารไม่ต่ำกว่ากองทุนละ 100 ล้านเหรียญสหรัฐ (4,300 ล้านบาท) และผู้บริหารกองทุนนั้นๆ จะต้องมีประสบการณ์ในการบริหารกองทุนประเภทนี้ไม่น้อย กว่า 5 ปี

การมีข้อกำหนดต่างๆ ในการลงทุนที่เข้มงวด ก็เพื่อไม่ให้นักลงทุนได้รับผลกระทบมาก ถ้าเกิดความเสียหาย แต่ยังมีสิ่งที่จำเป็นและสำคัญกว่าข้อกำหนด คือ การให้ความรู้ความเข้าใจกับผู้ลงทุนให้มีความสามารถในการ เลือกลงทุนได้อย่างถูกต้อง เพราะ Hedge Fund นั้นมีการบริหารที่หลากหลาย และมีระดับความเสี่ยง ที่แตกต่างกันค่อนข้างมาก เมื่อเทียบกับกองทุนรวม (Mutual Fund) ที่มีการเสนอขายกันทั่วไป